Mad Face Food Week
Chinatip Jittamettagul

รวมทุกอีเวนต์ในกรุงเทพฯ

อัปเดตทุกอีเวนต์ทั่วกรุงเทพฯ ได้ในโพสต์เดียว แล้วคุณจะไม่อยากอยู่เฉยๆ

แก้ไขโดย
Time Out Bangkok editors
การโฆษณา

กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ แล้วเราจะอยู่เฉยๆ กันได้ไง ลองมาดูกิจกรรมสนุกๆ ที่เกิดขึ้นทั่วกรุงเทพฯ ที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี ปาร์ตี้ นิทรรศการศิลปะ เวิร์กช็อป ตลาดนัด งานแฟร์และอื่นๆ อีกมากมาย

รวมอีเวนต์ห้ามพลาดในกรุงเทพฯ

  • 5 จาก 5 ดาว
  • Things to do
  • คอนเสิร์ต

Charlie Puth กลับมาไทยอีกครั้งในวันที่ 6 ตุลาคม ที่ Impact Arena โดยครั้งนี้จะมาพร้อมอัลบั้มล่าสุด Charlie ที่มรเพลงดังอย่าง "Left and Right" ที่ featuring กับ Jungkook และ "I Don't Think That I Like Her" เป็นต้น 

  • Things to do
  • นิทรรศการ
  • เจริญกรุง

ศิลปินหญิง 4 คนที่พำนักอยู่ที่อินโดนีเซีย ได้แก่ Mella Jaarsma (เนเธอร์แลนด์), Maharani Mancanagara (อินโดนีเซีย), Citra Sasmita (อินโดนีเซีย) และ Natasha Tontey (อินโดนีเซีย) ชวนสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างร่างกาย เพศ และความยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรมต่างๆ ในประเทศอินโดนีเซีย และเพื่อหาคำตอบว่าวัฒนธรรมดั้งเดิมได้รับการอนุรักษ์ ถูกท้าทายและแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงได้อย่างไร  ทั้ง 4 คน มาจากต่างที่อยู่ทั้งเกาะชวา สุลาเวสีทางตะวันตก บาหลี และสุลาเวสีทางตอนเหนือ ซึ่งเกาะแต่ละแห่งล้วนมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ มีวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเชื่อที่แตกต่างกัน ตลอดจนมีการประกอบพิธีกรรมทางจิตวิญญาณและเรื่องราวการสืบทอดเชื้อสายทางมารดาที่ดำเนินคู่ขนานไปกับคตินิยมที่ให้เพศชายเป็นผู้นำ นิทรรศการ Body, Community, and Society: She is House นำเสนอผลงานทั้งในรูปแบบสื่อผสม วิดีโออินสตอลเลชั่น งานจิตรกรรมและงานเพอร์ฟอร์มานซ์ อันเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางวัฒนธรรมซี่งก่อร่างจากขนบธรรมเนียมของท้องถิ่น ผลงานต่างๆ จะว่าด้วยการสำรวจความสำคัญของพิธีกรรมและร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนหรือทำลาย และยังเป็นการเผยแพร่แนวคิดเกี่ยวกับร่างกายทั้งในแง่ของสรีระของมนุษย์ เชื่อมโยงกับบ้าน องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการตั้งคำถามถึงการวางรากฐานของลำดับชั้นทางสังคม  การปฏิรูปความรู้ทางด้านวัฒนธรรมและความเป็นไปได้ขององค์ความรู้ใหม่ที่พัฒนามาจากการยอมรับสิ่งที่ต่างออกไป นิทรรศการ  Body, Community, and Society: She is House เปิดให้เข้าชมฟรี วันนี้ - 2 กรกฎาคม 2566 ที่ 333Gallery, Warehouse 30 (ซอยเจริญกรุง 30) เปิดทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. – 18.00 น.

การโฆษณา
  • Theater
  • ละครเวที และ การแสดง

หอภาพยนตร์ชวนย้อนเวลาไปสัมผัสประวัติศาสตร์โลกภาพยนตร์กับหนังเงียบคลาสสิกประกอบดนตรีสดทุกรอบใน ‘เทศกาลภาพยนตร์เงียบ ประเทศไทย (The Silent Film Festival in Thailand)’ ที่กลับมาสร้างความบันเทิงอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานกว่า 3 ปี กลับมาครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 7 ของเทศกาล โดยจะมีหนังเงียบหลากหลายสไตล์และเนื้อหา ทั้งหนังที่เข้มข้นเหมาะกับแฟนหนังเงียบ รวมถึงหนังสำหรับเด็กและครอบครัว ซึ่งไฮไลต์ของปีนี้คือหนังเรื่อง Foolish Wives (1922) ของผู้กำกับ Erich von Stroheim ที่เพิ่งได้รับการบูรณะใหม่อย่างสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ Foolish Wives เคยจัดฉายในเทศกาลหนังเงียบมาแล้วเมื่อ พ.ศ. 2561 แต่เป็นฉบับที่ยังไม่ได้บูรณะและสั้นกว่าเกือบ 50 นาที ซึ่งต่างจากฉบับนี้ที่จะจัดฉายในปีนี้ และอีกเรื่องคือ The Kid (1921) หนังยาวเรื่องแรกของ Charlie Chaplin ดาวตลกผู้ยิ่งใหญ่และศิลปินเอกด้านการแสดงผู้สามารถผสมผสานความอ่อนไหวเข้ากับความโศกเศร้า และนี่จะเป็นครั้งแรกที่เทศกาลหนังเงียบจะนำหนังของ Charlie Chaplin มาฉายด้วย สำหรับนักดนตรีที่จะมาบรรเลงสดประกอบหนังเงียบในเทศกาลปีนี้เป็นนักเปียโนชาวดัตช์ 2 คน คือ Maud Nelissen ผู้ได้รับการยอมรับอย่างสูงในแวดวงนักดนตรีประกอบหนังเงียบโลกและมีผลงานการแสดงในเทศกาลภาพยนตร์สำคัญหลายแห่ง อีกคนคือ Daan van den Hurk นักดนตรีประกอบหนังเงียบรุ่นใหม่ ผู้มีผลงานแสดงประจำอยู่ที่ Eye Filmmuseum ประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับนักดนตรีไทยรับเชิญ คือ ‘ธารตะวัน เครืออ่อน’ ศิลปินอิสระรุ่นใหม่ ผู้เคยร่วมอบรมดนตรีประกอบหนังเงียบของเทศกาลฯ และปัจจุบันเป็นนักดนตรี นักประพันธ์และนักสร้างสรรค์งานสื่อผสม The Silent Film Festival in Thailand จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 4 มิถุนายน 2566 ณ โรงภาพยนตร์ศาลา

  • 5 จาก 5 ดาว
  • Theater
  • ละครบรอดเวย์
  • ห้วยขวาง

ชวนคอละครเพลงชาวไทยไปฉลองครบรอบ 25 ปีของละครเพลงบรอดเวย์คลาสสิกอย่าง West Side Story ด้วยการตีตั๋วไปดูการแสดงสดๆ หน้าเวที เพราะพวกเขากำลังจะยกโปรดักชั่นมาแสดงที่ไทยในเดือนตุลาคมนี้ West Side Story เป็นเรื่องราวความรักท่ามกลางความขัดแย้งของสองแก๊งคู่อริต่างเชื้อชาติแห่งนครนิวยอร์ก เมื่อ ‘โทนี่’ หนุ่มหล่อแห่งแก๊ง Jets กับ ‘มาเรีย’ สาวสวยเปอร์โตริกันแห่งแก๊ง Sharks บังเอิญมาตกหลุมรักกันจนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานรักสุดสะเทือนใจอย่าง Romeo & Juliet เปิดแสดงครั้งแรกใน ค.ศ. 1957 และถูกหยิบยกขึ้นมาทำใหม่หลายต่อหลายครั้งทั้งในรูปแบบละครและภาพยนตร์ สำหรับโปรดักชั่นใหม่กำลังจะมาแสดงที่กรุงเทพฯ จะใช้ท่าเต้นฉบับดั้งเดิมของ Jerome Robbins และมาพร้อมกับโปรดักชั่นเต็มรูปแบบทั้งคณะนักแสดงจากอเมริกาและทีมงานมากประสบการณ์จากนิวยอร์ก ไม่ว่าจะเป็น ผู้กำกับเจ้าของรางวัลเอมมี่อย่าง Lonny Price และนักออกแบบท่าเต้น Julio Monge ที่เป็นที่ปรึกษาฝ่ายศิลป์ให้กับเวอร์ชั่นภาพยนตร์โดย Stephen Spielberg อีกด้วย West Side Story จะเปิดการแสดง 6 รอบ ระหว่างวันที่ 5 - 8 ตุลาคม 2566 ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เปิดให้สำรองที่นั่งแล้ววันนี้ที่ Thaiticketmajor ทั้งบนเว็บไซต์และเคาน์เตอร์ 14 สาขา

การโฆษณา
  • Art
  • ศิลปะ

ปีนี้การฉลองเดือนไพรด์ในกรุงเทพฯ จะต้องยิ่งใหญ่ ทรงพลัง และสนุกขึ้นแน่นอน เพราะนอกจากงานใหญ่อย่าง Bangkok Pride 2023 แล้ว บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด ผู้จัดงานและเครือข่ายยังได้จัดแคมเปญประกวดงานศิลปะในธีม Road To Bangkok World Pride 2028 ที่มีเป้าหมายในการผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพจัด World Pride ในปี 2028 จาก 80 ผลงานของศิลปิน LGBTQ+ ที่ส่งเข้าประกวดในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2566 ถูกคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 ผลงานที่โดดเด่นและสื่อความหมายในการปักธงสู่ World Pride ได้ดีที่สุดมาจัดแสดง โดยผลงานที่ชนะจะถูกติดตั้งบนผนังด้านหน้าหอศิลป์ กรุงเทพฯ ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ส่วนอีก 9 ผลงานจะจัดแสดงที่ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนเช่นกันและได้สิทธิจัดทำสินค้าที่ระลึกกับ Bangkok Pride 2023 Bangkok Pride 2023 ผู้ชนะในแคมเปญนี้คือ ‘สรธร หวังนิตย์สุข’ กับผลงานชื่อ The Road to Equality: Bangkok World Pride 2028 ถ่ายทอดแนวคิด ‘ทางเดินแห่งความเท่าเทียม’ ผ่านองค์ประกอบที่สะท้อนความหลากหลายในกรุงเทพฯ เช่น พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ สัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร ถูกล้อมด้วยธงซึ่งเป็นตัวแทนของความหลากหลายทางเพศ และมีทางเดินเกลียวคลื่นซึ่งมีสีเป็น Intersex-Inclusive Pride flag และมีชาว LGBTQIAN+ ทุกเชื้อชาติกำลังเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ อีก 9 ผลงานที่ได้รับคัดเลือก ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมได้สิทธิจัดทำสินค้าที่ระลึกกับ Bangkok Pride 2023 ได้แก่ ผลงาน Self-acceptance จากศิลปินไกรสร บุญมี ผลงาน Seven sphere / สัตตะทรงกลมโคจร จากศิลปินเมธัส แก้วดำ ผลงาน The Beautiful of Love and Equality จากศิลปินณัฐนันท์ ศรเฉลิม ผลงาน New Age New Species จากศิลปินธีรวัฒน์ ฉั่วศิริพร ผลงาน painting

  • Things to do
  • นิทรรศการ
  • เยาวราช

เตรียมออกเดินทางค้นหาความรักไปกับ Munins และ 8 ศิลปิน ได้แก่ Art Jeeno, Art of Hongtae, Chubbynida, Peachful, Toddyinthemood, Tum Ulit, Underhatdaddy และ Viput A.  ในนิทรรศการกลุ่มครั้งใหม่ที่จะพาทุกคนออกเดินทางผ่านงานศิลปะที่อาจทำให้คุณนึกถึงใครบางคนในความทรงจำ To the moon and (never) back นิทรรศการที่เปรียบเทียบการค้นหาความรักกับการเดินทางไปสำรวจบนดวงจันทร์อันไกลโพ้นของนักบินอวกาศผู้กล้า ซึ่งเป็นการเดินทางที่ท้าทาย เต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความหวัง ความฝัน ความสุข สมหวัง การรอคอย ความเคว้งคว้าง คลุมเครือ และความเจ็บปวด ชื่อนิทรรศการมาจากประโยค "I love you to the moon and never back" ที่สามารถตีความได้สองความหมาย ทั้งรักมาก มากเสียจนระยะทางไปกลับระหว่างโลกกับดวงจันทร์ไม่มีความหมาย หรืออีกความหมายหนึ่งที่ตรงข้ามนั่นคือรักอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว

การโฆษณา
  • Things to do
  • ตลาดและแฟร์

นักอ่านสายดื่มเตรียมตัวให้พร้อม Books & Beers เทศกาลอ่านและดื่มอย่างรื่นรมย์ กำลังจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกิจกรรมน่าสนใจทั้ง Booktalk พบปะพูดคุย ร่วมชนแก้วกับนักเขียน และเสวนาเข้มข้นในหลากหลายประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจ พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน และกิจกรรม Art & Craft อีกเช่นเคย และที่พลาดไม่ได้ก็คือการออกร้านของสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่จะขนหนังสือน่าอ่านหลากหลายแนวมาให้เลือกซื้อพร้อมโปรโมชั่นดีๆ ชอบอ่านแนวไหนมีหมด ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ความรู้ สารคดี สังคม วิทยาศาสตร์ นวนิยาย วรรณกรรมแปล วรรณกรรมไทย นิยายวาย ไลท์โนเวล หนังสือสำหรับคนอกหัก หนังสือสำหรับครอบครัว พัฒนาตัวเอง ฯลฯ Books & Beers จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 30 กรกฎาคม 2566 เวลา : 11.00 - 22.00 น.ที่ตึกสิงห์ คอมเพล็กซ์ (MRT สถานีเพชรบุรี)  

  • Things to do
  • คอนเสิร์ต
  • สยาม

โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงชื่อดัง David Foster เตรียมนำเอาคอนเสิร์ต Hitman David Foster and Friends กลับมาแสดงในไทยอีกครั้งในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ กลุ่ม “เพื่อน” ที่จะมาขับร้องเพลงที่แต่งโดย Foster ในเอดิชันปี 2023 นี้นำโดย Loren Allred นักร้องเสียงดีที่หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะเสียงทรงพลังของเพลง “Never Enough” เพลงประกอบภาพยนตร์ The Greatest Showman ที่จะบินมาแสดงในไทยเป็นครั้งแรก งานนนี้ยังมีศิลปินคุณภาพ Michael Bolton, Catherine McPhee และ Peabo Bryson ร่วมเวทีด้วย – และยังได้ บิวกิ้น - พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ก็จะขึ้นเวทีร้องเพลงของ Foster ในเวทีเดียวกันนี้ด้วย ส่วนจะเป็นเพลงอะไรนั้น ต้องไปเซอร์ไพรซ์กันที่คอนเสิร์ต บัตรราคา 2,500-10,000 บาท ที่ Thai Ticket Major จองได้ตั้งแต่่ 3 มิถุนายน เป็นต้นไป

การโฆษณา
  • Things to do
  • เทศกาล

ท่ามกลางบรรยากาศ และความร้อนระอุ (หรือบางทีก็ฝนตก) ในทุกฤดูกาล แม้จะทำให้หลายคนอึดอัดใจหรือเบื่อหน่ายไปบ้าง แต่เราก็ยังเชื่อว่าชาวกรุงเทพฯ ยังอยากสนุกกับการใช้ชีวิตและอยากตามหากิจกรรมพิเศษๆ ทำในวันหยุดกันเช่นเคย  และถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบออกไปชมนิทรรศการศิลปะ ทำเวิร์กช็อป ฟังเพลงชิลๆ ฮอปปิ้งคาเฟ่ หรือไม่เคยพลาดอีเวนต์และปาร์ตี้สุดเอ็กคลูซีฟที่เราจะนำมากระซิบบอก เราขอแนะนำว่าอย่าพลาดติดตามคอนเทนต์ ‘อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจประจำสัปดาห์’ ที่เราจะมาอัปเดตเรื่องราวสนุกๆ ให้ทุกคนได้รู้กันเป็นประจำ ส่วนในสัปดาห์นี้จะมีอีเวนต์หรือกิจกรรมอะไรที่รอให้ทุกคนตามไปร่วมเอ็นจอยอยู่บ้าง เราหยิบมาแนะนำให้ทุกคนเลือกแล้วด้านล่างนี้เลย  

  • Art
  • ศิลปะ

ใครที่ผ่านไปผ่านมาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมช่วงนี้จะเห็นการตกแต่งรอบตัวห้างที่แปลกตาไป เพราะเกือบทั้งตึกกำลังถูกห่อด้วยผืนผ้าใบสีขาวขนาดยักษ์ที่ระบายด้วยภาพเขียนลายเส้นน่ารักๆ เจือสีพาสเทลสดใสที่ดูเผินๆ ก็จะเหมือนภาพเทวดานางฟ้าฝรั่งเต็มไปหมด แต่ถ้าใช้เวลาค่อยๆ มองก็เริ่มจะเห็นรายละเอียดไทยๆ ที่คุ้นตา ไม่ว่าจะเป็น เทวดาที่ดูเหมือนจะสวมชฎา หรือนางฟ้าที่สวมสไบลอยไปลอยมา  เพราะจริงๆ แล้วงานศิลปะขนาดยักษ์นี้กำลังเล่าเรื่อง สังข์ทอง นิทานพื้นบ้านที่คนไทยทุกคนรู้จักกันดี โดยเรื่องราวการผจญภัยของพระสังข์ถูกนำมาตีความใหม่โดยศิลปินชาวฝรั่งเศส Guillaume Sardin (กิโยม ซาร์แด็ง) เป็นโปรเจกต์สุดพิเศษของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เพื่อนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทยอย่างเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ Central Department StoreCentral x Guillaume Sardin เรื่องราวของสังข์ทอง ตั้งแต่พระสังข์พลัดพรากจากผู้ให้กำเนิด ตกอยู่ในอุปการะของนางยักษ์ หนีมาพร้อมของวิเศษ (ที่รวมถึงรูปเงาะ) พบรักกับนางรจนาที่เห็นถึงรูปทองที่ซ่อนอยู่ภายใน และกลับคืนสู่ครอบครัวในที่สุดนั้นทัชใจศิลปินกิโยมอย่างมาก โดยเฉพาะหัวใจของนิทานสังข์ทองที่พูดเรื่องของการวัดคุณค่าจากแก่นแท้ภายใน เกิดแรงบันดาลใจที่เขาจะพาเอาฉากในเรื่องสังข์ทองมาเล่าใหม่ผ่านลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ ในโอกาสพิเศษที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลตั้งใจมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่นักช้อปและคนรักศิลปะ  Central Department StoreCentral x Guillaume Sardin กิโยม ซาร์แด็ง นั้นมีงานอันเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากความชอบในสัญลักษณ์ภาพโบราณที่ผู้คนวาดและสื่อสารกันในยุคก่อนผสมผสานกับความหลงใหลในนิทานและเทพนิยายที่ช่วยถักทอจินตนาการของเขาและเด็กอีกหลายล้านคนทั่วโลกในวัยเด็ก ทั้

ได้รับการสนันสนุน
เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา